สร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านศิลปะและการเคลื่อนไหว

This post is also available in: อังกฤษ

งานศิลปะจากนิทรรศการ Un-Conscious กิจกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสังคมผ่านสื่อหลายรูปแบบจากหนังโครงการ Tech Tales Youth เรื่อง Black Hole

เขียนโพสต์โดย Aly Suico

ปฏิพัทธิ์ อัคราพูนรัตน์ หรือบอล เป็นศิลปินและผู้กำกับหนังชาวไทย ซึ่งมีความหลงใหลในการสร้างสรรค์งานทดลอง ภาพยนตร์สั้น และสารคดี ความรักในการค้นหาวิธีการเล่าเรื่องใหม่ ๆ ของเขาถูกกระตุ้นโดยความเชื่อในความสามารถของภาพยนตร์ในการถ่ายทอดความจริง บอลมุ่งเน้นการเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตในวัยรุ่น ความเป็นผู้ใหญ่ ความทรงจำ และอภิปรัชญา โดยแสดงออกถึงคุณค่าของความไม่เที่ยงของชีวิต

ด้วยความมุ่งมั่นของเขาในการค้นหาวิธีการเล่าเรื่องใหม่ ๆ บอลได้สร้างหนังที่มีผลกระทบต่อสังคมเรื่องแรกของเขา Black Hole ผ่านโครงการ Tech Tales Youth ของ EngageMedia

แรงบันดาลใจในการสร้างหนังที่มีประเด็นด้านการเมือง

บอลเป็นหนึ่งในเยาวชนไทยรุ่นใหม่ที่ตระหนักถึงบทบาทของตนในสังคมปัจจุบัน เขาทราบดีถึงข่าวที่เกี่ยวข้องกับสิทธิดิจิทัล เช่น การขายข้อมูลส่วนบุคคลและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เอื้ออำนวยต่ออาชญากรรมดิจิทัล แต่เขาไม่เคยคิดถึงบทบาทของตัวเองในประเด็นสิทธิดิจิทัลมากนัก ในช่วงเวลานั้น เขารู้สึกว่าความผิดปกติใหม่ๆ และการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้มีอำนาจในยุคดิจิทัลนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา บอลมั่นใจว่าเขาคงจะไม่กลายเป็นเหยื่อของการหลอกลวง เพราะถึงแม้จะมีความพยายามมากมายจากพวกโจรหลอกลวง แต่เขาก็ไม่เคยตกเป็นเหยื่อของพวกเขา

บอลได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างหนังที่มีประเด็นด้านการเมือง จากผู้กำกับไทย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล และภาพยนตร์ Parasite ของ บงจุนโฮ ในฐานะที่บอลเป็นนักศึกษาที่เรียนด้านภาพยนตร์จึงเห็นโอกาสในการสร้าง Black Hole ภายใต้โครงการ Tech Tales Youth ของ EngageMedia ซึ่งเน้นไปที่สิทธิดิจิทัล เขาบอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทยในปัจจุบันผ่านภาพยนตร์ของเขา โดยเน้นไปที่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและการใช้ข้อมูลเหล่านั้นอย่างไม่ถูกต้อง ผ่านเลนส์ของความรับผิดชอบของรุ่นต่อรุ่น ในกระบวนการสร้างหนังที่มีผลกระทบต่อสังคมนี้ บอลเห็นศักยภาพของเขาในฐานะเยาวชนไทยในการรับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลง เขาตระหนักว่าหากปัญหาที่สืบทอดจากอดีตยังไม่ได้รับการแก้ไข เขาและคนรุ่นต่อไปจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมา

ในการเขียนบทภาพยนตร์ ปฏิพัทธิ์เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบคำถามของตัวเองเกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมในสังคมที่ข้ามผ่านหลายรุ่น เขาตั้งใจให้ Black Hole ส่องสว่างไปที่สิทธิดิจิทัลในฐานะปัญหาที่ใกล้เคียงกับรุ่นของเขา

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

โปสเตอร์หนังเรื่องฺ Black Hole จากโครงการ Tech Tales Youth

บอลเชื่อว่าภาพยนตร์ประเทืองปัญญาที่ดีมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงมุมมองของโลก อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้คนมีความตั้งใจที่จะทำให้มันเกิดขึ้น กิจกรรมและแคมเปญที่เชื่อมโยงกับการจัดแสดงภาพยนตร์จึงมีความสำคัญต่อการผลิตภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคม เพราะสิ่งนี้จะรับประกันผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จริงและเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ของการเปลี่ยนแปลง

เขาได้ออกแบบแคมเปญหนังที่มีผลกระทบกับสังคม เพื่อแสดงให้เห็นการเติบโตของเขาเอง เขาทราบดีว่า Black Hole เป็นหนังแนวทางที่ทดลอง และเขาคาดการณ์ว่าอาจไม่เหมาะกับทุกคน ดังนั้นเขาจึงมุ่งเน้นไปที่ศิลปิน, นักสร้างสรรค์รุ่นเยาว์, และนักศึกษาภาพยนตร์ที่เหมือนกับเขา ซึ่งพบว่าหนังแนวทดลองและศิลปะมีประสิทธิภาพในการส่งสารที่เขาต้องการจะสื่อ

โครงการ Asia Pillars Film Connection เข้าใจถึงรูปแบบศิลปะของ Black Hole และได้เชิญให้บอลเข้าร่วมงาน Film Talents BKK เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 งานนี้เต็มไปด้วยนักศึกษาและนักทำหนังรุ่นเยาว์มืออาชีพ ซึ่งเป็นผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเขา ที่นี่ได้กลายเป็นพื้นที่ซึ่งบอลใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในการสร้างภาพยนตร์ที่มีผลกระทบและสิทธิดิจิทัล พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับผู้สร้างภาพยนตร์คนอื่นๆ

นิทรรศการศิลปะ Un-Conscious ที่ Hopespace Thonburi ซึ่งบอลจัดขึ้น โดยแสดงผลงานมีเดียผสมผสานที่สะท้อนถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย โดยใช้ซิมการ์ดและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนประกอบ

บอลตระหนักถึงความจำเป็นในการขยายกลุ่มผู้ชมออกไปนอกชุมชนของเขา เป้าหมายถัดไปของเขาคือการจัดนิทรรศการและการฉายภาพยนตร์ร่วมกับผู้กำกับ Tech Tales จากประเทศไทยคนอื่นๆ เขาได้รวมงานของเขาไว้ในชุดหนังสั้นที่เน้นไปที่สิทธิดิจิทัล กลยุทธ์นี้ใช้แนวทางการเล่าเรื่องที่หลากหลาย รวมถึงแนวทางของเขาเอง เพื่อดึงดูดผู้ชมที่หลากหลายและสร้างผลกระทบที่มีความหมาย

บอลจัดนิทรรศการ Un-Conscious ซึ่งเป็นการฉายภาพยนตร์และนิทรรศการที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันที่ HopeSpace Thonburi เมื่อวันที่ 27-28 เมษายน 2567 ในวันแรกของการฉายมีการจัดอภิปรายหลังการฉาย และในวันถัดมา ภาพยนตร์ Black Hole ถูกฉายซ้ำพร้อมกับผลงานศิลปะของบอลในรูปแบบของการติดตั้งวิดีโอและนิทรรศการ ตามความคิดสร้างสรรค์ของเขา

บอลและคีย์บอร์ดซึ่งเป็นผู้ร่วมงานของเขา รู้สึกตื่นเต้นกับการจัดนิทรรศการนี้ในตอนแรก แต่พวกเขาก็โล่งใจเมื่อเริ่มเห็นผู้คนทยอยเข้ามาดูงาน นอกจากการส่งคำเชิญให้กับผู้เข้าร่วมงานโดยตรงแล้ว พวกเขายังสังเกตเห็นผู้ชมหน้าใหม่บางคนเดินเข้ามาด้วยความอยากรู้ เพราะถูกดึงดูดโดยนิทรรศการ แม้แต่ผู้ที่เดินผ่านมาจากกิจกรรมอื่นในอาคารเดียวกันก็รู้สึกอยากเข้ามาดูนิทรรศการ Un-Conscious

การอภิปรายหลังการฉายเริ่มต้นด้วยหัวข้อมากมาย บรรยากาศที่ทุกคนนั่งบนพื้นช่วยลดความแตกต่างระหว่างผู้พูดและผู้ชม ทุกคนมีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับสิทธิดิจิทัลในระดับที่เท่ากัน ความคิดเห็นส่วนใหญ่ในระหว่างการพูดคุยเป็นการตระหนักถึงความลึกซึ้งและจริงจังของปัญหาสิทธิดิจิทัลในประเทศไทย การอภิปรายเปิดพื้นที่ให้พวกเขาสะท้อนและตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลทำเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ และวิธีที่รัฐบาลเองมีความผิดในการจัดการปัญหานี้ ตลอดการอภิปราย บอลรู้สึกถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา นั่นคือการได้พูดคุยและรับฟังความคิดเห็นจากผู้คนที่ไม่รู้จักเกี่ยวกับหนังสั้นทั้ง 7 เรื่องที่พวกเขาเพิ่งดู

จากซ้ายไปขวา: ปฏิพัทธิ์ อัคราพูนรัตน์ หรือบอล ผู้กำกับหนังสั้น Black Hole และปรัชญา ช่อบุญกลาง ที่นิทรรศการ ณ Hopespace Thonburi
ผู้เข้าชมนิทรรศการโพสท่าขณะถือโปสการ์ดซึ่งแจกในงานนิทรรศการ

บอลขึ้นเวทีหลังการฉายภาพยนตร์ Black Hole ที่งาน Bangkok Film Talents ซึ่งจัดโดย Asia Pillars Film Connection เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ภาพทางด้านขวาเป็นภาพจากผู้จัดงาน

สิ่งสำคัญในการเริ่มต้นก้าวแรก

บอลยอมรับว่าการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมนี้นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา โดยเฉพาะการสร้างหนังของเขา ทำให้เขารู้สึกวิตกกังวล มันรู้สึกเหมือนเป็นการทดลองสำหรับเขา แต่ไม่ว่าเขาจะรู้สึกยากเย็นเพียงใด กิจกรรมเพื่อสร้างผลกระทบกับสังคมเหล่านี้เปิดโลกทัศน์ให้บอลเข้าใจว่าภาพยนตร์ของเขาขยายไปสู่โลกจริงได้อย่างไรผ่านการสร้างแคมเปญ โครงการ

Tech Tales Youth ทำให้บอลเติบโตและสนับสนุนเขา เขาได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับปัญหาดิจิทัลและได้เห็นด้วยตนเองว่าภาพยนตร์สามารถช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ประสบการณ์ที่เขาแชร์กับเพื่อนผู้สร้างภาพยนตร์และผู้ชมนั้น เพิ่มคุณค่าและแรงบันดาลใจให้กับบอลในการใช้ภาพยนตร์เพื่อทำให้เกิดความแตกต่างต่อไป

ผลงานบางชิ้นที่บอลแนะนำ ได้แก่::
  • ภาพยนตร์ The Lighthouse (กำกับโดย Robert Eggers, 2019)
  • ซีรีส์อนิเมะญี่ปุ่น Neon Genesis Evangelion ที่สร้างโดย Hideaki Anno
  • เพลงคลาสสิก
  • ดนตรีของนักแต่งเพลงญี่ปุ่น Ryuichi Sakamoto
  • นวนิยายคลาสสิกปี 1954 Lord of the Flies โดย William Golding/li>

ดู Video4Change Impact Campaign Builder ของบอลด้านล่าง: