Search
Close this search box.

สุขอนามัยดิจิทัล 101: แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางดิจิทัล

This post is also available in: อังกฤษ อินโดนีเซีย พม่า Khmer

คำแนะนำนี้เขียนขึ้นโดย ดาริกา บำรุงโชค และเผยแพร่ในเดือนเมษายน 2020 Coconet.โซเชียล. ฉบับปรับปรุงแก้ไขสำหรับปี 2022 โดย Khairil Zhafri ผู้จัดการฝ่ายสิทธิดิจิทัลและเทคโนโลยีของ EngageMedia และ Ashraful Haque ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยดิจิทัล ได้รวบรวมข้อมูลที่ทันสมัยในด้านการแนะนำและทรัพยากรด้านสุขอนามัยดิจิทัลที่มีอยู่. แปลเป็นภาษาไทยโดยผู้สนับสนุนจากกลุ่ม EngageMedia Localization Community Weblate.

ภาพประกอบโดย Rebecca Wang สำหรับ OpenIDEO Cybersecurity Visuals Challenge ภาพจาก Wikimedia Commons ได้รับอนุญาตภายใต้ใบอนุญาตระหว่างประเทศ Creative Commons Attribution 4.0

 

สุขอนามัยดิจิทัลเป็นด่านแรกที่สำคัญ ในการป้องกันภัยคุกคามดิจิทัลใหม่ ๆ ที่กำลังพัฒนา เช่น อีเมลที่เป็นอันตราย วิศวกรรมสังคม ฟิชชิง การคุกคามทางไซเบอร์ การแฮ็ก การโจรกรรมข้อมูล และอื่น ๆ การละเมิดข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีลดช่องโหว่ของเราให้เหลือน้อยที่สุด ต่อไปนี้คือเคล็ดลับด้านความปลอดภัยและการมีสุขภาพดีในการป้องกันไวรัสดิจิทัล พร้อมด้วยรายการทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเครื่องมือทั่วไปที่เราใช้สำหรับงานออนไลน์.

สุขอนามัยดิจิทัลที่ดีในที่ทำงาน

ไม่ว่าคุณจะทำงานจากที่บ้านหรือที่สำนักงาน สิ่งสำคัญคือต้องดูแลสุขอนามัยดิจิทัลของคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ทำงานออนไลน์ของคุณมีความปลอดภัย และข้อมูลและไฟล์ส่วนบุคคลและองค์กรของคุณปลอดภัย รายการตรวจสอบแนวทางปฏิบัติที่ดีก่อนเริ่มวันทำงานของคุณมีดังต่อไปนี้:
  1. หากต้องการเพิ่มการป้องกันอีกชั้น ให้เปิดใช้งานการรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัยสำหรับทุกบัญชี โดยเฉพาะอีเมลและโซเชียลมีเดีย
  2. เปลี่ยนชื่อ wifi ส่วนตัวให้เป็นอะไรที่ระบุตัวตนได้น้อยกว่า
  3. เปลี่ยนรหัสผ่านเราเตอร์ wifi ให้ซับซ้อนและยากต่อการถอดรหัสโดยการเพิ่มตัวเลขและอักขระพิเศษ
  4. เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นของอุปกรณ์สมาร์ทส่วนบุคคลที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่บ้านของคุณ
  5. ใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่เชื่อถือได้ เช่น KeePassXC หรือ BitWarden เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับรหัสผ่านของคุณ
  • อัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอ ตรวจสอบการอัปเดตความปลอดภัยและแพตช์เป็นประจำ และติดตั้งทันทีเมื่อพร้อมใช้งาน
  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์ได้รับการอัปเดตแล้ว
  2. ตรวจสอบและลบซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้
  3. ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
  • สำรองไฟล์ของคุณและสำรองข้อมูลเป็นประจำ การสูญเสียไฟล์ที่สำคัญไปตลอดกาลอาจเป็นฝันร้าย ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญหายของข้อมูลและแรนซัมแวร์ ให้สำรองไฟล์สำคัญเป็นประจำ โดยใช้เครื่องมือและกระบวนการที่ปลอดภัย
  1. เข้ารหัสการสำรองข้อมูลสำหรับทั้งฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกและบริการคลาวด์ 
  2. ซอฟต์แวร์ เช่น Cryptomator สามารถเข้ารหัสไฟล์ก่อนที่จะจัดเก็บไว้ในระบบคลาวด์ 
  3. คุณยังสามารถใช้ VeraCrypt เพื่อสร้างที่เก็บข้อมูลเข้ารหัสประเภทต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

ภาพประกอบโดย Rebecca Wang สำหรับ OpenIDEO Cybersecurity Visuals Challenge ภาพที่ได้รับอนุญาตภายใต้ใบอนุญาตระหว่างประเทศ Creative Commons Attribution 4.0

 

  1. เราแนะนำเบราว์เซอร์ อาทิ Brave, Firefox, และ Chromium เปลี่ยนโปรแกรมค้นหาเริ่มต้นเป็นเว็บไซต์ที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวเช่น DuckDuckGo และล้างแคชและประวัติของคุณอย่างสม่ำเสมอ
  2. ติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์เพื่อความปลอดภัย เช่น Privacy Badger, NoScript และ uBlock Origin เพื่อช่วยให้การท่องอินเทอร์เน็ตปลอดภัยยิ่งขึ้น
  3. โปรดทราบว่าส่วนขยายบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ตรวจสอบและลบส่วนขยายของเบราว์เซอร์ที่คุณไม่ได้ใช้บ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ
  4. ปกป้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณโดยใช้ VPN ให้คุณคิดว่า VPN เป็น “อุโมงค์ส่วนตัว” ที่เชื่อมต่อเฉพาะคุณกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ปลอดภัย
  5. ใช้บริการ VPN จากผู้ให้บริการที่เน้นเรื่องความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ หากคุณต้องการทดลองใช้ฟรี เราขอแนะนำ RiseUp VPN, Proton VPN, Psiphon หรือ DRAPAC VPN Project
  • ระวังการโจมตีแบบฟิชชิง การคลิกลิงก์ปลอมหรือข้อความที่น่าสงสัยผิดเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลให้บัญชีถูกบุกรุก ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมย และระบบคอมพิวเตอร์ติดไวรัส ดังนั้นควรระมัดระวังเป็นพิเศษ! 
  1. อย่าคลิกลิงก์ต้องสงสัยที่ไม่ทราบแหล่งที่มา หากคุณไม่แน่ใจ ให้ใช้ VirusTotal เพื่อตรวจสอบลิงก์ก่อนที่จะคลิก
  2. เรียนรู้วิธีในการระบุประเภทฟิชชิงทั่วไปและวิธีป้องกันตัวเองโดยการอ่านแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น คู่มือการป้องกันตนเองจากการถูกสอดส่อง และบทความใน EngageMedia นี้
  • เรียนรู้เกี่ยวกับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นให้กับการสื่อสารออนไลน์ของคุณ เมื่อคุณไม่เข้ารหัสกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ต ใครที่มีเครื่องมือหรือมีความเชี่ยวชาญก็จะสามารถสืบหาสิ่งที่คุณทำทางออนไลน์ได้ ลองนึกภาพการส่งจดหมายโดยใช้ไปรษณียบัตร ใครก็ตามที่จัดการไปรษณียบัตรของคุณสามารถอ่านจดหมายของคุณได้ การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางก็เหมือนกับการส่งจดหมายในซองจดหมาย แม้ว่าคนอื่นจะเห็นว่าคุณกำลังส่งจดหมายจริง ๆ แต่พวกเขากลับมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างในซองจดหมาย
  1. เข้ารหัสอีเมลของคุณโดยใช้ OpenPGP ส่วนขยายของเบราว์เซอร์ เช่น Mailvelope และบริการอีเมล เช่น Proton Mail, Tutanota, Mailbox.org และ RiseUP ช่วยทำให้การเข้ารหัสอีเมล PGP ง่ายขึ้น 
  2. ใช้แอปรับส่งข้อความแบบโอเพนซอร์สที่มีการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางในตัว เช่น Signal, Wire และ Session
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บเบราว์เซอร์ของคุณใช้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยเสมอโดยเปิดใช้งานโหมด HTTPS เท่านั้น เบราว์เซอร์ใหม่ส่วนใหญ่จะเตือนคุณเมื่อเรียกดูเว็บไซต์ที่ไม่มี HTTPS เต็มรูปแบบ
  • ปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณทางออนไลน์โดยปฏิบัติตามคําแนะนําต่อไปนี้:
  1. จำกัดร่องรอยทางดิจิทัลของคุณโดยการจำกัดประเภทข้อมูลที่คุณแชร์บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคม หลีกเลี่ยงการแชร์รูปภาพส่วนตัว การเช็คอินสถานที่ที่ไป และการเชื่อมโยงหมายเลขโทรศัพท์มือถือกับบัญชีออนไลน์ 
  2. ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยม เช่น Google, Facebook, Twitter และ LinkedIn ตั้งค่าหน้าโปรไฟล์ของคุณเป็นแบบส่วนตัวและจำกัดการมองเห็นโพสต์ของคุณเฉพาะกลุ่มที่เลือกอย่างเพื่อนสนิทและสมาชิกในครอบครัว 
  3. ปิดใช้งานการติดตาม ID โฆษณาบนอุปกรณ์มือถือของคุณ เพื่อทำให้ผู้ลงโฆษณาและนายหน้าข้อมูลติดตามและทำโปรไฟล์คุณทางออนไลน์ได้ยากขึ้น อย่าลืมปิดการติดตามบน Facebook ด้วย 
  4. ใช้ที่อยู่อีเมลสำรองเมื่อลงชื่อสมัครใช้บัญชีผู้ใช้ หรือสมัครรับบัญชีจ่าหน้า Firefox Relay โดย Mozilla และ SimpleLogin โดย Proton ที่ให้บริการเปลี่ยนเส้นทางอีเมลที่สามารถปกปิดที่อยู่อีเมลส่วนตัวของคุณได้แบบฟรี ๆ   
  5. ใช้ตัวบล็อกโฆษณา เช่น Adblock Plus และ Disconnect เพื่อลดจำนวนโฆษณาที่คุณเห็นและจำกัดนักการตลาดที่ติดตามคุณทางออนไลน์ 
  • สุขอนามัยดิจิทัลยังรวมถึงการจำกัดการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลของคุณด้วย คุณจำครั้งสุดท้ายที่คุณถอดปลั๊กได้หรือไม่ พิจารณาการ”ดีท็อกซ์ดิจิทัล” เพื่อจำกัดเวลาบนหน้าจอของคุณ และเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีทางดิจิทัลของคุณ อ่านบทความเพื่อเรียนรู้ว่าทำไมเราถึงควรพักจากอุปกรณ์เทคโนโลยี และพิจารณาหาเวลาสำหรับการดีท็อกซ์ข้อมูลทั้งหมด

ทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างปลอดภัยทางออนไลน์​

สิ่งที่เราได้กล่าวถึงไปแล้วคือแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยดิจิทัลที่ดีที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่การทำงานจากระยะไกลหมายถึงการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่อาจไม่แข็งแรงทางดิจิทัลเท่าเรา EngageMediaมีเครื่องมือทำงานร่วมกันที่เราแนะนำใช้กันภายในซึ่งมีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และเหมาะสำหรับการทำงานจากระยะไกล (remote working) แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์นัก  บทความของ Tactical Tech ที่ชื่อว่า “Technology is Stupid” กล่าวไว้ว่า: “ความคิดที่ว่ามีเครื่องมือที่จะใช้ได้กับทุกคนได้ทุกที่ ไม่ต้องการความรู้เพิ่มเติมและไม่มีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม ที่มียุติธรรมและเที่ยงธรรม และปกป้องผู้ใช้ตลอดเวลา เป็นความฝันที่ยังไม่เป็นจริ” แต่ในขณะที่เรายังไม่มีเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานง่าย เราก็มุ่งที่จะเฟ้นหาเครื่องมือทางเลือกที่ดีสขึ้นอยู่เสมอ เพื่อการการทำงานจากระยะไกล อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ เพื่อเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเครื่องมือออนไลน์

ภาพประกอบโดย Abraham Pena สำหรับ OpenIDEO Cybersecurity Visuals Challenge ภาพที่ได้รับอนุญาตภายใต้ใบอนุญาตระหว่างประเทศ Creative Commons Attribution 4.0 International license

 

  • ทางเลือกนอกเหนือไปจาก Google Docs ในการทำงานเอกสารร่วมกันกับผู้อื่น
  1. CryptPad เป็นทางเลือกแบบโอเพนซอร์สสำหรับการทำงานร่วมกันบนเอกสาร โดยมีขีดจำกัดพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนทั้งหมดคือ 1GB ลงทะเบียนฟรีโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล Pads ที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะถูกลบหลังจากไม่มีการใช้งานเป็นเวลาสามเดือน
  2. Riseup Pad อนุญาตให้มีการแก้ไขร่วมกันแบบออนไลน์โดยใช้บริการ Etherpad ซึ่ง Riseup จะไม่เก็บที่อยู่ IP โดย Pads จะถูกทำลายโดยอัตโนมัติหลังจากไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 60 วัน
  • ทางเลือกนอกเหนือไปจาก WhatsApp, Line และ Viber สำหรับการส่งข้อความ
  1. Signal เป็นแอปแชทฟรีที่มีการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง โปรโตคอล Signal แบบโอเพนซอร์สช่วยให้แชทของคุณปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีฟังชั่นที่จะทำให้ข้อความสำหรับการสนทนาที่ละเอียดอ่อนหายไปในระยะเวลาที่กำหนด
  2. Wire ให้บริการแชทแบบตัวต่อตัวหรือแบบกลุ่ม การสื่อสารด้วยเสียง และการแชร์ไฟล์ด้วยการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง คุณสามารถลงทะเบียนโดยใช้อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ
  3. Rocket.Chat ยังเป็นแอปแชทโอเพนซอร์สที่มีการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง
  4. หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปเหล่านี้ คุณสามารถดูการเปรียบเทียบระดับความปลอดภัยของแอปส่งข้อความต่าง ๆ ได้ที่นี้
  • ทางเลือกนอกเหนือไปจาก Zoom and Skype สำหรับการประชุมออนไลน์
  1. Jitsi Meet เป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สที่ใช้งานง่ายซึ่งไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนผู้ใช้ คุณสามารถใช้ meet.jit.si เพื่อจัดการประชุมออนไลน์ของคุณได้ฟรี หรือปรับใช้ Jitsi Meet บนเซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง การปรับใช้งานแบบฟรีที่เชื่อถือได้สำหรับ Jitsi Meet ในแบบอื่น ๆ ได้แก่ Greenhost, Framatalk และ Distroot
  2. BigBlueButton เป็นเครื่องมือสื่อสารผ่านวิดีโอแบบโอเพนซอร์สที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ Google Meet, Microsoft Teams และอื่น ๆ คุณสามารถสร้างห้องกลุ่มย่อย ใช้ไวท์บอร์ด เปิดใช้งานคำบรรยาย ทำแบบสำรวจ แชร์บันทึก และใช้คุณสมบัติอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับการฝึกอบรมและการเรียนรู้ออนไลน์ คุณสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์ของคุณเองหรือสมัครใช้งาน BigBlueButton ที่จัดการโดย NoLog.cz, CommunityBridge, meet.coop และผู้ให้บริการอื่น ๆ
  3. Talky มีตัวเลือกการเข้ารหัสฟรี แอปนี้อนุญาตให้ใช้วิดีโอแชทและแชร์หน้าจอได้ง่ายสำหรับกลุ่มได้สูงสุด 6 คน
  4. Wire ยังมีการประชุมทางวิดีโอที่ปลอดภัย แต่เฉพาะในเวอร์ชันที่ต้องชําระเงินเท่านั้น หากคุณสนใจลองใช้ Wire คุณสามารถทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน
  5. ถ้าคุณต้องการใช้เฉพาะเสียงสำหรับการประชุมออนไลน์ของคุณ Mumble เป็นสิ่งที่ดี ฟรี เป็นโอเพนซอร์ส และทำงานในเวลาแฝงที่ต่ำ
  6. ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องมือการประชุมทางวิดีโอแบบใดก็ตาม ให้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมการทำงานและภาพพื้นหลังของคุณเสมอ พื้นหลังแบบเรียบจะดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงของส่วนตัว หรือของใช้ส่วนตัวที่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ พิจารณาปิดกล้องของคุณเมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • ทางเลือกสำหรับบริการแชร์ไฟล์เชิงพาณิชย์
  1. Share.riseup.net เป็นบริการแชร์ไฟล์ที่โฮสต์โดย Riseup ซึ่งจะเก็บไฟล์ออนไลน์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะลบออก
  2. OnionShare.org ช่วยให้คุณแชร์ไฟล์ขนาดใดก็ได้อย่างปลอดภัยและไม่ระบุตัวตนโดยใช้ Tor Network
  3. Lufi โดย Disroot เข้ารหัสและโฮสต์ไฟล์ของคุณสำหรับการแชร์ออนไลน์ได้นานถึง 30 วัน

เครื่องมือของคุณ ตัวเลือกของคุณ

ในการเลือกใช้เครื่องมือสำหรับการทำงานออนไลน์  กฎง่าย ๆ คือการตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการและตรวจสอบประเภทของการเข้ารหัสที่ใช้อย่างรอบคอบ บริษัทเทคโนโลยีและนักพัฒนาหลายแห่งกระตือรือร้นที่จะพัฒนาความสามารถในการเข้ารหัสของเครื่องมือ แต่ใช่ว่าการเข้ารหัสทุกประเภทจะได้รับการสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน และซอฟต์แวร์จำนวนมากที่เราคุ้นเคยก็ไม่ได้เข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตัวอย่างเช่น แอปการประชุมทางวิดีโอยอดนิยมอย่าง Zoom ก็ไม่ได้มีการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง หมายความว่าใครก็ตามที่มีเครื่องมือและทักษะที่เหมาะสมจะสามารถสอดแนมการประชุมของคุณได้

ท้ายที่สุดแล้ว ความปลอดภัยทางดิจิทัลเป็นแนวคิดของแต่ละบุคคล ในที่สุดสิ่งที่คุณเลือกใช้ก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ คุณมีอำนาจในการกำหนดขอบเขตและเลือกเครื่องมือที่คุณต้องการใช้

หากคุณพบเครื่องมืออื่นๆ ที่เหมาะกับคุณ บอกเราได้เลย! เราจะอัปเดตโพสต์นี้สำหรับคำแนะนำและการปรับปรุงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัล ยิ่งเราปฏิบัติด้านสุขอนามัยดิจิทัลที่ดีร่วมกันมากเท่าไร เราทุกคนก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

ในการเลือกใช้เครื่องมือสำหรับการทำงานออนไลน์  กฎง่าย ๆ คือการตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการและตรวจสอบประเภทของการเข้ารหัสที่ใช้อย่างรอบคอบ บริษัทเทคโนโลยีและนักพัฒนาหลายแห่งกระตือรือร้นที่จะพัฒนาความสามารถในการเข้ารหัสของเครื่องมือ แต่ใช่ว่าการเข้ารหัสทุกประเภทจะได้รับการสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน และซอฟต์แวร์จำนวนมากที่เราคุ้นเคยก็ไม่ได้เข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตัวอย่างเช่น แอปการประชุมทางวิดีโอยอดนิยมอย่าง Zoom ก็ไม่ได้มีการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง หมายความว่าใครก็ตามที่มีเครื่องมือและทักษะที่เหมาะสมจะสามารถสอดแนมการประชุมของคุณได้ ท้ายที่สุดแล้ว ความปลอดภัยทางดิจิทัลเป็นแนวคิดของแต่ละบุคคล ในที่สุดสิ่งที่คุณเลือกใช้ก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ คุณมีอำนาจในการกำหนดขอบเขตและเลือกเครื่องมือที่คุณต้องการใช้ หากคุณพบเครื่องมืออื่นๆ ที่เหมาะกับคุณ บอกเราได้เลย! เราจะอัปเดตโพสต์นี้สำหรับคำแนะนำและการปรับปรุงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัล ยิ่งเราปฏิบัติด้านสุขอนามัยดิจิทัลที่ดีร่วมกันมากเท่าไร เราทุกคนก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

ภาพจาก 200degrees ได้รับอนุญาตภายใต้ใบอนุญาต Pixabay